วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

Articles



1. Articles (a , an , the)

หมายถึง คำที่อยู่หน้าคำนาม เพื่อบอกจำนวน ปริมาณ และความหมาย มี 2 ชนิด คือ

1. Indefinite Articles ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ มีความหมายไม่เจาะจง ได้แก่ a , an

2. Definite Articles ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ และพหูพจน์ มีความหมายเฉพาะเจาะจง ได้แก่ The


หลักการใช้ a , an


1. a มีความหมายว่า หนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ หรือขึ้นต้นด้วยสระแต่อ่านออกเสียงอย่างพยัญชนะ เช่น

a woman a flower

a uniform a unit

2. an มีความหมายว่า หนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ ที่ขึ้นต้นด้วยสระ หรือขึ้นต้นด้วยพยัญชนะแต่อ่านออกเสียงอย่างสระ เช่น

an ox an aunt

an hour an honor


หลักการใช้ the


1. นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์และพหูพจน์ เมื่อต้องการกล่าวถึงนามนั้นเป็นครั้งที่ 2 หรือครั้งต่อ ๆ มา เช่น

Show me a pen. Give me the pen, please.

Those are ants. The ants are black.

2. นำหน้านามนับไม่ได้ และคำนามนับได้เอกพจน์และพหูพจน์ที่ชี้เฉพาะหรือมีคำหรือข้อความมาขยายนามนั้น เช่น

The picture on the wall is beautiful.

The English books are on that shelf.

3. นำหน้าคำนามที่ผู้พูดและผู้ฟังเข้าใจกันแล้วว่าหมายถึงสิ่งใด เช่น

I am going to the park.

The dog is in the kitchen.

4. นำหน้าคำนามที่มีสิ่งเดียวในโลก ในประเทศ ในจังหวัด ในอำเภอ หรือในหมู่บ้าน เช่น

the world the sun the moon

the sky the east the west

the north the south the station

the hospital the market the sea

5. นำหน้าชื่อสถานที่ต่าง ๆ เช่น

แม่น้ำ the Chao Praya River

ทะเล the Red Sea

มหาสมุทร the Atlantic Ocean

ช่องแคบ the English Channel

อ่าว the Persian Gulf

เทือกเขา the Alps

โรงแรม the Ritz Hotel

ธนาคาร the Bangkok Bank

6. นำหน้าชื่อประเทศที่เป็นพหูพจน์ เช่น

the Philippines the United Kingdom

the United States of America


7. นำหน้าชื่อเครื่องดนตรีที่ตามหลังกริยา play เช่น

the piano

play the violin

the guitar

8. นำหน้า adjectives ที่ทำหน้าที่เป็นคำนาม หมายถึงทั้งพวก เช่น

The rich should help the poor.

9. นำหน้าชื่อชนชาติ เมื่อหมายถึงคนในชาติทุกคน หรือกล่าวทั่ว ๆ ไป เช่น

The French cook better than the English.

10. นำหน้า adjectives ที่บอกลำดับที่ (ordinal) เช่น

the first the second the third


นามที่ไม่ต้องใช้ article ใด ๆ นำ


1. นามที่เป็นชื่อมื้ออาหาร เช่น

Dinner is ready

I have breakfast at 6.30 o’ clock.

2. ชื่อฤดูกาล วัน เดือน วิชา อาชีพ เช่น

Winter is cold.

Today is Monday.

January is the first month of the year.

English is my favorite subject.

I like to play badminton.

3. คำนามแสดงสถานที่บางคำที่อยู่หลังกริยา go เช่น

go to school go to bed

go to hospital go to town

4. สำนวนที่ใช้กับบุพบทต่อไปนี้

at home by night in ink

at noon by day in class

at night by bus in bed

5. นามนับไม่ไดและนามนับได้พหูพจน์ ที่กล่าวถึงโดยทั่วไป เช่น

Milk is useful. Roses are flowers.


2.Numerals

หมายถึง ตัวเลข มี 2 ประเภท คือ

1. The Cardinal Numerals หมายถึง เลขนับ เช่น one, two, …etc.

2. The Ordinal Numerals หมายถึง เลขลำดับที่ เช่น first, second, …etc.
The Cardinal Numerals

จำนวนจำนวน 
1one21twenty-one
2two22twenty-two
3three30thirty
4four40forty
5five50fifty
6six60sixty
7seven70seventy
8eight80eighty
9nine90ninety
10ten100a (one) hundred
11eleven101one hundred and one
12twelve200two hundred
13thirteen240two hundred and forty
14fourteen1000a (one) thousand
15fifteen4000four thousand
16sixteen100,000a hundred thousand
17seventeen1,000,000a million
18eighteen12a dozen
19nineteen20a score
20twenty144a gross
วิธีใช้ The Cardinal Numerals
    1. บอกจำนวนคน สัตว์ สิ่งของ หรือราคา เช่น
            There are five children in my family.
            That ring is five hundred and sixty-seven.
    2. บอกจำนวนอายุ ความสูง น้ำหนัก ความยาว ความกว้าง เช่น
            He is eleven years old.
            She is four feet five inches tall.
    3. อ่านเวลา ปีศักราช เช่น
            08.00 – eight o’ clock          1,950 – nineteen fifty
            10.50 – ten fifty                 2,506 – twenty – five oh six
    4. อ่านบ้านเลขที่ เบอร์โทรศัพท์ เช่น
            345 Saimai Road – three forty Saimai Road
            2040 Romyen Road – twenty forty Romyen Road
            07-3500241 – oh seven three five oh oh two one
            034-566151 – oh three four five six six one five one
The Cardinal Numerals
เลขลำดับที่ทำได้จากจำนวนนับ ดังนี้
    1. เติม th ท้ายจำนวนนับ ยกเว้น
            the first (ที่ 1)     the second (ที่ 2)     the third (ที่ 3)
    2. ลำดับที่บางคำไม่เป็นไปตามกฎ เช่น
            five        เป็น         the fifth (ที่ 5)
            eight      เป็น         the eighth (ที่ 8)
            nine       เป็น         the ninth (ที่ 9)
            twelve    เป็น         the twelfth (ที่ 12)
    3. จำนวนนับที่ลงท้ายด้วย –ty ให้เปลี่ยนเป็น –tieth เช่น
            twenty   เป็น     the twentieth (ที่ 20)
            thirty     เป็น     the thirtieth (ที่ 30)
    4. จำนวนนับที่เป็นคำรวม ให้ทำเป็นลำดับที่เฉพาะตัวหลัง เช่น
            twenty – one     เป็น     the twenty – first (ที่ 21)
            thirty – five       เป็น     the thirty – fifth (ที่ 35)
วิธีใช้ The Ordinal Numerals
        1. บอกลำดับที่คน สัตว์ สิ่งของ เช่น
                The first boy is my brother.
        2. บอกลำดับที่ของวัน เดือน เช่น
                Monday is the second day of the week.
                March is the third month of the year.
        3. อ่านวันที่ เช่น
                6th August     -     the sixth of August
                May 17th       -     May the seventeenth\
3.Demonstratives
ได้แก่ this, that, these, those สามารถเป็นได้ทั้ง pronoun และ adjective
หลักการใช้ Demonstratives
1. this ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงคำนามที่อยู่ใกล้ตัวผู้พูด
pronoun
adjective
This + is + singular countable noun
uncountable noun
This + singular countable noun + is/has
This is a good newspaper.
This is water
This newspaper is good.
This newspaper has twelve pages.
2. that ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงคำนามที่อยู่ไกลตัวผู้พูด
pronoun
adjective
That + is + singular countable noun
uncountable noun
That + singular countable noun + is/has
That is a dirty dog.
That is milk.
That dog is dirty.
That dog has big ears.
3. these เป็นรูปพหูพจน์ของ this ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงคำนามที่ใกล้ตัวผู้พูด
pronoun
adjective
These + are + plural noun
These + plural noun + are/have
These are your presents.
These presents are yours.
These presents have beautiful ribbons.
4. those เป็นรูปพหูพจน์ของ that ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงคำนามที่ไกลตัวผู้พูด
pronoun
adjective
Those + are + plural noun
Those + plural noun + are/have
Those are new trees.
Those trees are new.
These trees have a lot of leaves.
4.Possessive Adjectives    
        หมายถึง คำที่วางไว้หน้านามเอกพจน์หรือพหูพจน์ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ได้แก่ 
            my = ของฉัน          เช่น      I go to school with my brother.
            Our = ของเรา          เช่น      My sister and I like to play in our garden.
            your = ของคุณ        เช่น      You go for a walk with your dog.
            his = ของเขา (ผู้ชาย)    เช่น      Panya is doing his homework. 
            her = ของเขา (ผู้หญิง)   เช่น      The nurse cleans her hands. 
            its = ของมัน            เช่น      The bird is in its nest. 
            their = ของเขาทั้งหลาย   เช่น      The children clean their teeth twice a day.